วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

นักวิจัย ซึ่งเป็นนายแพทย์ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า ร่างกายของมนุษย์ถูกโจมตีโดยอนุมูลอิสระ (Free Radical) ตลอดเวลา เพราะสิ่งเจือปนที่เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดอนุมูลอิสระมีอยู่ทั่วๆ ไป มีอยู่ทั้งในอากาศที่เราหายใจ อาหารที่เรากิน และน้ำที่เราใช้ดื่ม 


น้ำดื่มในอุดมคติ   โดย ศ.ดร.นพ. สมศักดิ์ วรคามิน
ซึ่งอนุมูลอิสระที่แทรกซึมเข้าไปในร่างกาย จะทำลายภูมิต้านทานของร่างกายให้อ่อนแอ และเมื่อไหร่ที่ภูมิต้านทานพ่ายแพ้ ก็หมายถึงเกิดการเจ็บป่วย และรามถึงการเกิดมะเร็งขึ้นได้ กลุ่มนักวิจัยยังพบว่า น้ำดื่มมีความสัมพันธ์กับความเจ็บป่วยและความชรา ถ้าร่างกายจะสามารถต่อสู้กับความเจ็บป่วยและชะลอความชราได้ ก็ต้องอาศัยน้ำดื่มที่มีคุณภาพ น้ำยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของเลือด เพราะเป็นน้ำถึง 92%เลือดจะนำสารอาหารทั้ง 5 หมู่ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ออกซิเจนรวมทั้งเอนไซม์ (Enzyme)ไปให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย และยังป้องกันเซลล์โดยน้ำจะละลายสารพิษออกมา แล้วนำไปทำลายที่ตับหรือทิ้งออกไปนอกร่างกายในรูปของอุจจาระ ปัสสาวะ และเหงื่อ   
ลักษณะของน้ำดื่มในอุดมคติที่มีคุณประโยชน์กับร่างกายมนุษย์มีดังนี้ 
1. ปราศจากสารปนเปื้อนทางเคมี และสารอินทรีย์ต่าง ๆ อาทิ เชื้อจุลินทรีย์ โลหะหนัก สารเคมี
2. ประกอบด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย อาทิ โปแตสเซียม แมกมีเซียม แคลเซียม เป็นต้น การที่น้ำมีแร่ธาตุละลายอยู่ มากจะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว นอนหลับ สดใส กระปรี้ กระเปร่า ลดคอลเลสเตอรอลและจิตใจสงบผ่อนคลาย
3. มีโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้แทรกซึมสู่เซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถ นำพาสาร อาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างทั่วถึง และนำพาของเสีย ออกมาจากเซลล์ไปทิ้งได้
4. มีความกระด้างของน้ำปานกลาง มีประจุไฟฟ้าสูงและเป็นสื่อนำความร้อนที่ดี
5. มีความเป็นด่างอ่อน ๆ โดมีค่าความเป็นกรด - ด่างระหว่าง pH 7.25 - 8.50 เพื่อช่วยกำจัดความ เป็นกรด และของเสียในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีภาวะที่สมดุล
6. มีปริมาณออกซิเจนเจือปนอยู่ด้วยสูง วัดค่าได้ประมาณ 5 มิลลิกรัม ต่อลิตรหรือมากกว่า

ลักษณะของน้ำดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง
1. น้ำอ่อน คือน้ำที่ไม่มีแร่ธาตุและมีส่วนเกี่ยวพันกับการเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง
2. น้ำกลั่น ซึ่งไม่มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ละลายอยู่เลยเป็นผลให้ร่างกายต้องดึงแร่ธาตุ ที่จำเป็น เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และเกลือแร่อื่น ๆ ออกมาใช้ จึงอาจทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุเหล่านี้ ก่อให้เกิด โรคหัวใจ และหลอดเลือดจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
3. น้ำดื่มบรรจุขวด ที่มีสารปนเปื้อนและไม่ได้มาตรฐานแม้จะดูใส และปลอดภัยกว่าน้ำประปา แต่ 25 % ของน้ำดื่มบรรจุขวดเป็นเพียงการนำน้ำประปามาใส่ขวด และปรับปรุงคุณภาพเล็กน้อยเท่านั้น
4. น้ำประปามีคลอรีนซึ่งช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียแต่จะก่อให้เกิดสารพิษชื่อไตฮา โลมีเทน (Trihalomethanes-THM) เกิดจากคลอรีนทำปฏิกิริยากับสารอินทรีย์ในธรรมชาติซึ่งละลายอยู่ในน้ำ ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โลหิตจาง มะเร็งลำไส้ใหญ่ สมองเสื่อม เป็นต้น
5. น้ำอัดลม ทำมาจากน้ำกลั่นหรือน้ำอ่อนที่ไม่มีแร่ธาตุ ทำให้ร่างกายต้องสูญเสียแร่ธาตุและดึงแร่ธาตุที่ จำเป็นออกมาใช้ อาทิแคลเซียมและแร่ธาตุเหล่านี้จะสูญเสียออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ และอื่น ๆ ซึ่งการสูญเสีแร่ธาตุจากร่างเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ต่อมา เช่น กระดูกพรุน ข้ออักเสบ ความ เสื่อมต่าง ๆ แก่ก่อนวัย เป็นต้น
6. น้ำหวาน / น้ำผลไม้สำเร็จรูป เป็นเพียงน้ำตาลกับสีผสมน้ำ โดยแต่งกลิ่นธรรมชาติเข้าไปและอาจเติมวิตามินหรือแร่ธาตุปะปนอยู่บ้าง แต่จะก่อให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดีกับร่างกายในระยะยาว

สารละลายที่เป็นด่างจะมีออกซิเจนสมบูรณ์
เมื่อหันมาดูความเป็นกรด ,ด่างในทางเคมี สารละลายที่มีค่า pH มากกว่า 7.0 ถือว่าเป็นด่าง และจะมีคุณสมบัติที่ดึงออกซิเจนเอามาไว้ในสารละลายนั้น ในขณะที่สารละลายที่มีค่า pH ต่ำกว่า 7.0 จะถือว่ามีฤทธิ์เป็นกรดและจะไม่ยึดออกซิเจน หรืออีกนัยหนึ่ง ออกซิเจนไม่มีละลายในน้ำที่มีฤทธิ์เป็นกรด สารละลายที่เป็นด่างอ่อนๆ ได้ถึง 100 เท่า ถ้าตามผลงานของนายแพทย์ Warburg ความเป็นกรดของร่างกาย ก็จะเป็นตัวนำให้เกิดมะเร็งได้ เพราะออกซิเจนไม่ชอบอยู่ในที่เป็นกรด ผลงานของนายแพทย์ Warburg ถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์อยู่จนทุกวันนี้

น้ำที่ผ่านรังสีอินฟราเรดจะมีฤทธิเป็นด่าง
ในปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นยังนิยมใช้น้ำที่อ้างว่ามีคลื่นแม่เหล็กในการรักษาโรคหลายอย่าง เช่น โรคไต โรคชรา และโรคระบบปนะสาท โดยให้เหตุผลว่า เพราะน้ำที่ผ่านสนามแม่เหล็ก (Magnetic Field) หรือผ่านรังสีอินฟราเรดนั้นจะมีสภาพเป็นด่าง มีโครงสร้างเล็กลง และมีอิเลคตรอนประจุลบ (ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ) ฯลฯ คุณสมบัติทั้งหมดถ้ามีจริงก็ถือว่าเป็นประโยชน์และเป็นความต้องการของเซลลืในร่างกาย มีนักวิจัย 2 ท่าน คือ Reich และ Barefoot พบว่าน้ำที่ผ่านคลื่นแม่เหล็กจะเป็น Magnetized Water (คือเป็นน้ำที่มีคลื่นแม่เหล็ก) มีฤทธิ์เป็นด่างโดยมีค่า pH สูงถึง 9.2 และเขาทั้งสองเชื่อว่า pH ที่เป็นด่างสูงๆ นั้น เซลล์มะเร็งไม่ชอบและมะเร็งจะหยุดการเจริญได้ ซึ่งเป็นการคล้อยตามผลงานนายแพทย์ Warburg อีกด้วย

ประโยชน์ของน้ำ โออาร์พีลบ (ORP-) : ผู้ปราบอนุมูลอิสระ (Radical Scavenger)
น้ำดื่มที่มีค่า โออาร์พีเป็นลบ (Negative ORP) ก็คือ สารต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญ จะต้านมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณค่าลบของORP ซึ่งวัดเป็นมิลลิโวลท์ประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ของมันก็คือ   คุณสมบัติในการช่วยป้องกันอันตรายต่อร่างกาย     อันจะเกิดจากอนุมูลอิสระ (FreevRadical)ผลร้ายจากอนุมูลอิสระ (Oxiative Stress) ที่พบบ่อยพอจะสรุปได้ดังนี้ คือ

1. อนุมูลอิสระโจมตีโมเลกุลของ ดีเอ็นเอ (DNA Molecule) ทำให้เสื่อสภาพ รหัสพันธุกรรมจะผิดปกติ ทำให้เซลล์แก่ตาย หรืออาจจะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง เช่น มะเร็งที่ ปอด (Lung) ปากมดลูก (Cervix) ต่อมลูกหมาก (Prostate) สำไส้ใหญ่ (Colon) ฯลฯ

2. อนุมูลอิสระทำอันตรายไขมันชนิด LDL(แอลดีแอล) ซึ่งมักจับเป็นคราบ (Plaque) ในหลอดเลือด เกิด Lipid Peroxidationทำให้หลอดโลหิต แข็งตัว (Atherosclerosis) และอุดตันการไหลเวียนของเลือด จนอาจเป็นโรค เนื้อสมองตาย หรือโรคหัวใจขาดเลือด(Myocardial Infarction) ตามมาได้

3. อนุมูลอิสระทำให้เอนไซม์ระดับเซลล์ (Cellular Enzyme) เลื่อม ลดประสิทธิภาพที่จะเร่งปฏิกิริยาเคมี เป็นผลให้เซลล์และอวัยวะต่างๆ ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ เกิดโรคแห่งความเสื่อมต่างๆ (Degenerative Disease) เช่นโรคเบาหวาน โรคข้ออักเสบ โรคผิวหนังบางชนิด โรคภูมิแพ้ หืด โรคชรา มะเร็ง ฯลฯ

4. อนุมูลอิสระทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) และอาจลามไปถึงไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) เซลล์จึงไม่สามารถสร้างและใช้พลังงาน เอทีพี (ATP) ได้ ทำให้มีอาการอ่อนเพลียเรื้อรังและเซลล์จะแก่ตัวเร็วขึ้น (จากเรื่อง Free Radical Theory of AgingโดยDr.Denham Harman ค.ศ. 1956)

5. อนุมูลอิสระเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดต้อกระจก (Cataract) และโรคจอภาพตาเสื่อม (Macular Degeneration) ต้นเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระที่นัยน์ตามาจาก แสงแดด รังสีจากจอคอมพิวเตอร์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ

6. อนุมูลอิสระอาจเกี่ยวพันกับการเกิดโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคหืด และลดภูมิต้านทานโรค

7. อนุมูลอิสระอาจทำให้เชื้ออสุจิของผู้ชาย (Sperm) เสื่อมคุณภาพ เป็นผลให้มีบุตรยาก หรือถ้ามี ทารกก็มีโอกาสคลอดออกมาพิการได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น